เครื่องถ่วงล้อ ข้อเสนอหรือเป็นความประพฤติที่ถูกต้องแม่นยำ
เครื่องถ่วงล้อ ที่จริงดูจากเนื้อหาของข้อสงสัยและก็สามารถที่จะตอบกันได้อย่างง่ายๆ สั้นๆ ว่าจริงหรือไม่จริง แต่ต้องการเอามาขยายความกันอีกรอบในเรื่องของการถ่วงล้อว่า การถ่วงล้อคือ การจัดการปัญหาของล้อที่ไม่สมดุลเมื่อล้อหมุนในความรวดเร็วใดความเร็วทันใจหนึ่ง
รับประกันข้อผิดพลาดที่เกิดจากการผลิตแค่นั้น ไม่กว้างขวางกรณีใช้รถในเชิงพาณิชย์ สงวนสิทธิ์สำหรับในการใช้ขณะตรวจตราราวๆ 6-8 สัปดาห์ โดยผู้ใช้จำเป็นจะต้องซื้อสินค้าเพื่อที่จะใช้ขณะรอผลของการตรวจสอบ ถ้าผลการตรวจดูความบกพร่องของผลิตภัณฑ์เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการสร้างและจัดทำขึ้นหรือการติดตั้งของ บี-ควิก บริษัทฯ จะรับผิดชอบโดยการคืนเงินค่าสินค้าตามเปอร์เซ็นต์วิธีการใช้งานที่เหลือ (ตามข้อแม้ที่บริษัทฯ ระบุ)
ก็ต้องซักถามกันต่อจากนี้เป็นต้นไปอีกว่าล้อที่ไม่สมดุลจนต้องเอามาแก้ไข(ถ่วง)นั้นมีเหตุมาจากอะไร ก็จะต้องตอบว่า มีต้นเหตุที่เกิดจากการสึกหรอ การเสื่อมสภาวะตามธรรมดาภายหลังจากวิธีการใช้งานไปได้ระยะหนึ่งโดยมีอาการบ่งกล่าวว่าในตอนที่ขับที่ความเร็วทันใจอาจที่(ปานกลางถึงสูง)พวงมาลัยจะสั่นหรือสะบัด)เบาจนรู้สึกได้ที่มือทั้งสองข้าง เมื่อมีลักษณะอาการดังที่ได้กล่าวมาแล้วจึงควรต้องรีบนำรถเข้าร้านขายของถ่วงยาง(ไม่เกี่ยวกับศูนย์ล้อทีจะเขียนถึงในครั้งถัดมา)
ความไม่สมดุลนั้น มีทั้งแบบสแตติคและแบบไดนามิค
ความไม่สมดุลแบบสแตติค สภาวะทั่วไปคือ แรงหนีจุดศูนย์กลาง แนวทางปรับแก้ สามารถทำเป็นแล้วได้โดยใช้น้ำหนักมาถ่วงเข้ากันกับล้อในขนาดที่พอๆกับน้ำหนักส่วนเกิน ในตำแหน่งตรงข้ามกัน 180 องศาเพื่อจะความสมดุล
ความไม่สมดุลแบบไดนามิค สิ่งที่ก่อให้เกิดไม่สมดุลเช่นนี้คือ แรงบิด เคล็ดวิธีปรับแต่งคือ
เพราะเหตุใด??จึงควร:ตั้งศูนย์-ถ่วงล้อ
หลาย ๆ ท่าน คงสงสัยว่าเพราะเหตุไรจำเป็นต้อง “ตั้งศูนย์-ถ่วงล้อ” เมื่อไหร่จะถึงระหว่างอันเหมาะสมที่ต้องดำเนินงาน และหากไม่ทำจะกำเนิดอะไรขึ้น “ทราบก่อนเหยียบ” ขอนำทุกท่านไปทราบกับการ “ตั้งศูนย์-ถ่วงล้อ”
ขอเริ่มที่“ตั้งศูนย์” คือการตั้งมุมต่าง ๆ ของล้อรถยนต์โดยเฉพาะล้อหน้า และในล้อหลังบางรุ่น ให้ถูกต้องตามค่าที่ผู้สร้างระบุมาจากโรงงานเพื่อจะผลดีในการขับเคลื่อนขี่ที่สมดุล-เกาะถนน แล้วเพราะเหตุใดจำเป็นต้องตั้งล่ะ?ในเมื่อถูกกำหนดมาจากโรงงานแล้ว กล่าวคือเมื่อเราใช้รถมาเป็นเวลาหลายๆหมื่นกิโลเมตร จำเป็นที่จะต้องเผชิญพบเห็นกับสภาพถนน มากมายหลายแบบ อีกทั้งการตกหลุมบ่อต่างๆ ย่อมบั่นทอนนำมาซึ่งการทำให้ ค่าของมุมล้อที่ถูกระบุมาจากโรงงาน ผิดเพี้ยนไปได้ จะมากหรือน้อยแตกต่างกันไปขึ้นกับตัวแปรที่พูดไว้ข้างต้น
มุมล้อหน้าที่ควรต้องตั้ง -มุมโท คือมุมที่จะสามารถช่วยให้รถวิ่งได้ดิ่ง นิ่ง และสามารถสั่งการรถในด้านตรงได้ไม่ยาก เราสามารถพินิจ
“มุมโท” ได้จาก หากล้อหน้าซ้ายและขวาขช้านานกันนั้น “มุมโท” จะควรค่าเป็น “0” แต่หาก ด้านหน้าของล้อหุบและด้านข้างหลังถ่างออกเรียกว่า “โทอิน” และในแง่ดิ่งข้ามถ้าข้างหน้าของล้อถ่างและด้านหลังหุบเข้าเรียกว่า “โทเอาต์”
“มุมแคสเตอร์” ในระบบณ เวลาด้านล่างแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท อะไหล่เครื่องถ่วงล้อ จะเป็นมุมเอียงของโช้คอัพ และในระบบเวลาล่างหน้าแบบปีกนกสองเกรดจะเป็นมุมของคอม้า มีบทบาท ช่วยให้รถวิ่งตรง การหักเลี้ยวและคืนตัวของพวงมาลัยทำแล้วได้อย่างคล่องตัว เพื่อรถตลาดโดยธรรมดา “มุมแคสเตอร์” จะเฉพาะเจาะจงตายตัวม่สามารถปรับตั้งได้
“มุมแคมเบอร์” เป็นมุมเอียงจากแนวตรง โดยหากล้อซ้ายและขวาขนานกันในแนวตรง เรียกว่าค่า แคมเบอร์เป็น “0” แต่ถ้าล้อด้านบนถ่างออกและด้านล่างหุบเข้าเรียกว่า แคมเบอร์บวก หากล้อด้านบนหุบเข้าและด้านล่างถ่างออกเรียกว่า แคมเบอร์ลบ ทั่วไป ค่าแคมเบอร์ ของล้อจะเป็นลบเล็กน้อย เพื่อจะช่วยทำให้ทรงตัวได้ดีสำหรับในการเข้าโค้ง แต่ถ้ามุม แคมเบอร์ มีค่าเป็นลบเยอะเกินไปจะก่อให้กินยางภายในมากยิ่งกว่าข้างนอก
“การถ่วงล้อ” คือแนวทางการทำให้ล้อเกิดสมดุลในตอนที่หมุนโดยวิธีใช้ตะกั่วถ่วงน้ำหนัก เพื่อจะคุ้มครองปกป้องการสั่นระหว่างรถวิ่ง ทั้งนี้การถ่วงล้อมีด้วยกัน 2 แบบ
ถอดล้อถ่วง ช่างจะถอดล้อออกมาเข้าเครื่องถ่วง โดยเครื่องจะหมุนล้อและประเมินผลออกม ใช้น้ำหนักถ่วงขนาดเท่ากันอีก 2 ก้อน มาตกหลุมพรางล้อโดยติดด้านละก้อนและอยู่ตรงกันข้ามกัน 180 องศา ดิ่งตำแหน่งคู่ที่สมดุล
ความไม่สมดุลทั้งสองแบบดังที่ได้กล่าวมาแล้ว เป็นต้นสายปลายเหตุให้ล้อรถยนต์เด้งขึ้นลงหรือมีลักษณะอาการส่าย การตั้งศูนย์ถ่วงล้อเป็นการกระตุ้นให้เกิดสมดุลสังกัดล้อ นำมาซึ่งการทำให้ล้อหมุนได้สม่ำเสมอไปไม่สั่นหรือส่ายไปมานั่นเอง
จริงอยู่ที่ว่า ความรู้กลุ่มนี้เป็นในด้านของเนื้อหา แต่ผู้บริโภครถก็ควรทราบเอาไว้บ้างเพื่อช่วงเวลาที่ได้สนทนากับช่างจะได้รู้เรื่องได้ง่ายขึ้น และรู้สภาวะที่แท้จริง สิ่งที่ควรจะปรับควรจะทำว่า มีมากเล็กน้อยเยอะแค่ไหน ไม่น่าใช่ยอมรับฟังจากช่างอย่างเดียว แม้ว่าเราจะไม่ใช่ผู้คนที่ลงมือทำเองในทุกเรื่อง แต่การมีความเข้าใจ ความเข้าใจ อย่างน้อยก็เป็นเครื่องป้องกันไม่ให้คนไหนมาหลอกเอาได้ ซึ่งเช่นไรก็ควรจะเป็นเรื่องดี และไหนๆ ก็จะทราบแล้ว มาทราบให้ลึกขึ้นอีกนิดถึงจำพวกของเครื่องถ่วงล้อกันเป็นต่อกว่า
ประเภทของเครื่องถ่วงล้อ
เครื่องถ่วงล้อ
เครื่องถ่วงล้อนั้นมีอยู่ร่วมกัน 3 แบบ
เครื่องถ่วงล้อแบบสแตติค แบบนี้ใช้ในสมัยก่อน ซึ่งปัจจุบันนี้ขาดหายากแล้ว
เครื่องถ่วงล้อแบบถอดยางออกมาจากล้อ (Off The Car Balance) ปัจจุบันนี้ใช้แบบนี้เป็นจำนวนมาก กระทำถ่วงล้อโดยนำล้อและยางมาขึ้นเครื่องถ่วง แล้วจะมีเกจ์บอกตำแหน่งและน้ำหนักที่จึงต้องควรติดตะกั่วถ่วง ว่าตรงไหน เยอะแค่ไหนก็เลยจะสมดุล
เครื่องถ่วงล้อแบบถ่วงณ เวลายางติดกับรถ (On The Car Balance) หรือที่เรียกว่า “การถ่วงล้อแบบจี้” สามารถถ่วงล้อได้เลยโดยไม่จึงควรถอดยางออกมาจากตัวรถ ส่วนที่ดีของเครื่องชนิดนี้ คือ สามารถถ่วงล้อได้ทั้งระบบ ทั้งชุดดุมล้อ เบรค นำมาซึ่งการทำให้ตัดปัญหาเรื่องการสั่นที่มีต้นเหตุมาจากองค์ประกอบอื่นนอกจากนี้ล้อและยางได้ด้วย แต่ก็มีข้อผิดพลาดอยู่ด้วยเช่นกัน คือ ราคาแพงกว่าการถ่วงล้อแบบถอด และคนทำก็ต้องมีสมรรถภาพจำเพาะที่จะสังเกตอาการสั่นของล้อเวลาที่ตัวล้อหมุน ไปจี้กับแก้มยาง ช่างที่ช่างพินิจและแม่นก็จะกระทำการถ่วงปรับปรุงแก้ไขให้สมดุลได้แม่นยำ
การตั้งศูนย์ล้อ ให้มุมตรงกัน
เคล็ดลับตั้งศูนย์ถ่วงล้อ
เมื่อถ่วงล้อเสร็จแล้วจึงตั้งศูนย์ คือการตั้งมุมต่างของล้อรถ โดยยิ่งไปกว่านั้นล้อหน้าจะต้องตั้งค่าให้ได้เกณฑ์ของโรงงานผลิต การสั่งการรถจึงจะเป็นไปอย่างมีคุณภาพ และจำเป็นต้องเข้าใจว่า เมื่อวิ่งไปได้ราวๆ 10,000 กิโลเมตร ก็จะทำให้ค่าของมุมล้อเกิดความเคลื่อนไหวได้อีก เนื่องจากว่าการเคลื่อนขี่บนถนน สภาวะถนนโดยเฉพาะของบ้านเรา มิได้เรียบตลอดเส้นทาง อะไหล่เครื่องถ่วงล้อ
แต่หากเจอว่า การตั้งศูนย์ถ่วงล้อแบบธรรมดาแล้ว แต่ล้อก็ยังไม่ขาดหายสั่น สิ่งที่เกิดขึ้นนี้อาจจะเกิดจากความไม่สมดุลขององค์ประกอบอื่น ดังเช่น จานเบรก เพลาขับ ลูกปืน ก็ได้เช่นกัน
การเสื่อมสภาพของยางจนนำมาซึ่งการทำให้ยางเสียการสมดุลในขณะที่หมุนนิยมจะมองไม่ปรากฏด้วยตาเปล่าต่างกับการสึกหรอที่เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากศูนย์ล้อเสียศูนย์ ยางที่จำเป็นต้องนำมาปรับแต่งการเสียสมดุลนั้นก็ทำได้ด้วยการถ่วงล้อและการถ่วงล้อนั้นในขณะนี้ก็มีอุปกรณ์ที่ใช้อยู่สองแบบ คือแบบที่ใช้กันมาเนิ่นนานใช้ได้กับยางทุกหมวดหมู่ทุกขนาดคือ เครื่องถ่วงล้อแบบจำเป็นต้องถอดล้อออกมาเข้าเครื่องถ่วง ซึ่งเป็นกระบวนการที่คนใช้รถ ช่างในยุคปัจจุบันนี้มองว่าเกิดเรื่องยุ่งยากเสียเวล่ำเวลาเนื่องจากจะต้องยกรถขึ้น ถอดล้อ
นำล้อไปเข้าเครื่องถ่วงถ้าต้องทำทั้งสี่ล้อก็จะเสียเวลาและยุ่งยากกันพอเหมาะสม แต่อีกอย่าง คือการถ่วงแบบไม่จึงควรถอดล้อหรือที่เรียกกันทั่วๆไปว่าการ ถ่วงจี้ เป็นกรรมวิธีการที่ร้านค้าถ่วงล้อส่วนมากจะชี้แนะและอวดยกตัวอย่างสรรพคุณว่าการถ่วงล้อแบบนี้แก้ปัญหาด้านล้อไม่สมดุลได้อย่างเด็ดเดี่ยว
กรรมวิธีการก็ไม่ยากเย็น ยกล้อข้างที่ต้องการถ่วงลอยขึ้นจากพื้นเขยื้อนอุปกรณ์หรือเครื่องถ่วงเข้าไปที่ล้อแล้วปลดปล่อยให้กลไกของเครื่องถ่วงปฏิบัติการ เป็นแนวทางการปฏิบัติงานที่ง่ายสบายรวดเร็วทันใจสำหรับช่างและเจ้าของรถที่ต้องการความรวดเร็วทันใจ จากข้อสงสัยและปัญหาที่เป็นมุมมองว่า ถ่วงแบบใดได้เปรียบกว่ากันนั้น ก็ตอบได้ว่า ถ้าจะวัดเอาผลลัพธ์ท้ายสุด คือ จัดการกับปัญหาพวงมาลัยสั่น(จากล้อเสียสมสดุล)ได้มั๊ย?ผลสรุปคือได้และดีด้วยกันทั้งสองแบบขึ้นอยู่กับว่าจะคัดสรรค์ใช้แบบใด
เพราะเหตุว่าเครื่องถ่วงล้อทั้งสองแบบคือเครื่องที่จะทำให้ทราบตำแหน่งของจุดที่ล้อเสียสมดุลพร้อมด้วยกล่าวถึงน้ำหนักของล้อที่ขาดหายไปในจุดนั้น ความเที่ยงดิ่งแม่นยำก็เลยขึ้นอยู่กับคุณภาพของเครื่องถ่วงในช่วงเวลาที่นั้นและที่สำคัญคือความนิ่งของมือช่างในตอนที่นั้น
คนจำนวนไม่น้อยอาจจะเคยเผชิญว่า เมื่อล้อสั่นนำไปถ่วงแบบถอดล้อแล้วไม่หายแต่ เมื่อเอาไปถอดจี้แล้วหายขาดเช่นกันที่บางท่านอาจจะจะถ่วงจี้แล้วไม่ขาดหาย แต่ไปหายด้วยการถ่วงแบบถอดหรือแบบโบราณ ที่แท้แล้วขั้นตอนการหรือแบบของเครื่องถ่วงนั้นไม่ใช่ผลสรุปว่าอย่างไหนหรือแบบใดเป็นต่อกว่ากัน แต่สังกัดว่าเครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้ในขณะที่นั้นมีความสมบูรณ์พอเพียงหรือไม่ ธรรมดาแล้วเครื่องถ่วงล้อก็ คือเครื่องไม้เครื่องมือวัดประเภทหนึ่งขาดไม่ได้ต้องตรวจตราค่าที่ใช้วัดว่าอาจที่หรือเปล่าบ่อยๆหรือขั้นต่ำจำเป็นจะต้องกระทำคาลิเบรทเครื่องมือ1 ครั้งต่อปี บ่อยครั้งที่ถ่วงล้อร้านค้าหนึ่งไม่หายไปถ่วงใหม่อีกร้านขายของหนึ่งแล้วขาดหายก็เกิดจากศักยภาพของเครื่องในช่วงเวลาที่นั้น
สิ่งหลังจากนั้นครับคือ การถ่วงล้อครับ แล้วทำไมควรต้องถ่วงล้อล่ะ จอร์จ จะแจกแจงไม่ยากครับ ยางทุกเส้นเมื่อใช้งานควรวิ่งแล้วหมุนเป็นวงกลมตลอดเส้น แต่ที่จริงแล้วยางแต่ละเส้นกระทะแต่ละวงน้ำหนักของแต่ละจุดจะไม่เท่ากันครับ กระตุ้นให้เกิดความไม่สมดุลกำเนิดขึ้นซึ่งจะทำให้เกิดผลเสียวิธีใช้งานโดยรถจะมีอาการเคลื่อนและสั่นครับ ซึ่งวิธีการถ่วงธรรมดาทุกร้านขายของจะมีเครื่องถ่วงล้อ พอเอายางขึ้นเครื่องเสร็จ จะได้ค่าถ่วงล้อพี่ช่างก็จะเอาตะกั่วมาติดตามจุดที่เครื่องวัดค่าได้ ก็จะทำให้ยางพวกเรานั้นวิ่งได้สมดุลครับ
มีถ่วงล้อและรวมทั้งควรจะมีตั้งศูนย์ครับแต่ขออธิบายก่อนนะขอรับว่าการกลับยางใหม่มิได้กระทบกับศูนย์ล้อเดิมครับผม แต่ต้นสายปลายเหตุผลที่ศูนย์ล้อมีปัญหาส่วนมากมีสาเหตุมาจากณ เวลาด้านล่างที่มีข้อขัดข้องหรือเกิดการกระแทกของขณะข้างล่างมาครับ ส่วนสาเหตุผลที่พวกเราจำเป็นต้องตั้งศูนย์ เพื่อที่จะส่งผลให้ล้อทั้ง 4 ล้อนั้นมีลัษณะทิศทางการหมุนในแนวตรงทางเดียวกับรถวิ่งครับผม ไม่ให้มีปัญหาของยางที่ไม่ขช้านานกัน หรือ มีการแยกไปจากกัน ซึ่งในกรณีนี้จะทำให้ยางนั้นอาจสึกผิดปกติแบบสึกบริเวณไหล่ของยางเพียงข้างเดียว และอาจจะจำเป็นต้องเสียตังค์ซื้อเส้นใหม่กันเลยครับ
ส่วนการเติมลมยางควรจะเติมตามที่รถแต่ละรุ่นชี้เฉพาะครับผม ไม่แนะนำให้เติมลมตามวิชาความรู้สึกเดิมๆหรือความเชื่อเรื่องตามๆกันมาครับผม สามารถดูได้จากป้ายสติกเกอร์ข้างประตูคนเคลื่อนครับผม
อะไหล่เครื่องถ่วงล้อ
สิ่งท้ายที่สุดครับผม เมื่อแปลงยางเรียบร้อยจำเป็นจะต้องเกิดการรันยางครับผม การรันยางจะช่วยทำให้ยางนั้นมีความบริบูรณ์เพิ่มขึ้นเหมือนกับการปรับให้เข้ากับวิธีใช้งานจริงครับ ควรจะรันโดยประมาณ 100 – 200 กิโลเมตรแรกครับผม โดยใช้ความเร็วทันใจอยู่ที่ 80 – 100 ครับผม เข้าใจ 4 อย่างเท่านี้ก็จะก่อให้เพื่อที่จะนๆชาวไทร์บิด ใช้ยางได้อย่างคุ้มคุ้มราคากับเงินที่เสียไปครับผม ขอบคุณมากครับผม
ถ้าเพื่อจะนๆมีข้อสงสัยสะดวก Chat มาสอบถามที่ LINE Official : ได้เลยนะขอรับ (โดยไม่คิดมูลค่าใดๆ ! ปรึกษาผู้ชำนาญยางรถยนต์) หน้าจอร์จและคณะทำงานมือโปรพร้อมนำเสนอดูแลยางรถยนต์ ตอบทุกข้อสงสัย กันแบบส่วนตัว และติดตามการจูงใจให้เกิดการใช้จ่ายพิเศษบน Facebook : กด See First รับข้อมูลก่อนผู้ใด จะได้ไม่พลาดสิทธิพิเศษเยอะมากๆทุกเดือน มั่นใจยางออนไลน์คุณภาพ & เชื่อมั่นบริการยางไทร์บิด
เครื่องถ่วงแบบถอดล้อ ชมจะเป็นวิธีการที่ยุ่งยากเสียเวลา แต่ข้อดีที่ได้คือช่าง(ที่ดี)และเจ้าของรถที่รักรถสามารถที่จะตรวจสอบเวลาล่าง เบรก โช้คอัพ คอยล์สปริงและอื่นๆ ได้ในขณะที่รถถูกยกล้อและล้อถูกถอดออกไป ในเวลาที่การถ่วงแบบจี้จะไม่อาจจะทำเป็นแล้วได้ อะไหล่เครื่องถ่วงล้อ
เรื่องของยางเป็นสิ่งจำเป็นขั้นตอนแรกของการใช้รถในเรื่องของความไม่มีอันตราย มีเค้าหน้าของยางอีกอย่างหนึ่งที่เสียสมดุลจน ไม่อาจจะที่จะแก้ไขด้วยการถ่วงล้อ และการตรวจตราด้วยสาตาจะต้องใช้ความเป็นคนช่างสังเกตนำมากๆ ก็คือ ยางเบี้ยว ซึ่งหมายถึงความกลมของยางสูญขาดหายไปหมดจากการเสื่อมสภาวะ ยางเบี้ยวจะพอพินิจได้เมื่อขึ้นล้อลอยแล้วหมุนยางด้วยมือเปล่าพินิจเส้นรอบวงของยางที่หมุนอยู่โดยรอบนั้นจะเป็นว่า เส้นรอบวงจะไม่เป็นวงโค้งเรียบแต่จะเป็นคลื่นสูงต่ำ ยางเบี้ยวคนใช้รถคงจะรู้สึกได้จาก เมื่อออกรถด้วยความเร็วต่ำแล้วสัมผัสเหมือนว่ารถโคลงเหมือนเรือ จนความรวดเร็วเพิ่มเติมเพิ่มมากขึ้นอาการนี้ก็หายไป ส่อให้เห็นได้ว่ายางเส้นใดเส้นหนึ่งหรือมากยิ่งกว่าเสียการสมดุลจนเกิดเบี้ยว ถึงขณะที่จำเป็นจะต้องเปลี่ยนแปลง
ครับผมเหมือนกันกับข้อแนะนำหลากหลาย ครั้งใช้รถจะต้องตรวจยางจึงควรวัดลมกันให้กำเนิดความรู้จักการออมและความไม่เป็นอันตรายจึงเกิดขึ้น
กลับสู่หน้าหลัก – sahacker